เมื่อเรียนทางไปรษณีย์ไม่มีใครรู้ว่าเรียนด้วยตัวเองจริงหรือเปล่า เราสามารถให้คนอื่นเรียนแทนได้โดยที่ไม่มีใครรู้ เมื่อเรียนทางไปรษณีย์ไม่มีใครรู้ว่าคุณเข้าใจบทเรียนหรือไม่ ไม่มีใครช่วยอธิบายข้อสงสัยของผู้เรียน แต่ในการเรียนของ ศ.ส.พ. ผู้เรียนจะต้องพบกันสัปดาห์ละหนึ่งครั้งเพื่อแสดงความคิดเห็นและตอบคำถามเกี่ยวกับบทเรียนที่ผู้เรียนเรียนมาแล้วที่บ้าน
เมื่อเรียนทางไปรษณีย์ไม่มีใครรู้ว่าผู้เรียนได้นำบทเรียนไปประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจำวันและพันธกิจที่คริสตจักรหรือไม่ แต่ ศ.ส.พ. ผู้เรียนทุกคนจะต้องมีพันธกิจการรับใช้ ซึ่งอาจจะเป็นการนำนมัสการ การสอนรวีฯ การนำกลุ่มเซลล์ การเป็นพี่เลี้ยง การเทศนา การเยี่ยมเยียนคนป่วยและผู้ต้องขัง ผู้เรียนแต่ละคนจะต้องมีโอกาสแบ่งปัน บทเรียนที่ได้เรียนรู้ในแต่ละสัปดาห์ เมื่อเรียนทางไปรษณีย์ ไม่มีใครรู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของผู้เรียนหลังจากที่เรียนหรือไม่ ไม่มีใครรู้ว่าผู้เรียนเติบโต และพัฒนาฝ่ายจิตวิญญาณหรือไม่ แต่ในการเรียนของ ศ.ส.พ. ผู้เรียนแต่ละคนจะต้องพบกับผู้นำศูนย์ทุกสองเดือน เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตฝ่ายวิญญาณ ผู้นำศูนย์เป็นเหมือน “โค้ช” ที่จะสอน หนุนใจตรวจสอบชีวิตฝ่ายวิญญาณและการรับใช้ของผู้เรียนในคริสตจักร ผู้นำศูนย์จะแนะนำแนวทางให้กับผู้เรียนแต่ผู้เรียนต้องเป็นผู้ตั้งเป้าหมายและวางแผนในการพัฒนาชีวิตส่วนตัวของผู้เรียนเอง นอกจากจะสอนทฤษฎีแล้วยังให้ผู้เรียนได้มีโอกาสปฏิบัติจริงจึงทำให้ผู้เรียนสามารถที่จะนำการเรียนการสอนนี้ไปใช้จริงในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย